“มุรามาสะ เจ้านั่งทำเหม่ออะไรอยู่น่ะ” เสียงเรียกแกมตะโกนของอีกคนทำให้เจ้าของชื่อต้องหันตามเสียงนั้น
“โทษทีเคียว ข้ามัวคิดอะไรเพลินไปหน่อย” หันกลับไปทางเดิม...เอาอีกแล้ว ทำไมข้าถึงไม่กล้าสบตาชายคนนี้ซักทีนะ
-พรึบ- ผ้าคลุมผืนย่อมถูกวางลงบนไหล่บาง
“ก็ไม่ได้ห่วงอะไรหรอกนะ เพียงแต่เห็นว่าคนอย่างเจ้ายังไม่สมควรที่จะตายตรงนี้น่ะ”
“เคียว...เจ้ารู้อะไรมั๊ย ทำไมข้าถึงชอบมานั่งที่หน้าหลุมศพของมายูมิเช่นนี้?”
สายลมอุ่นของยามเย็นพัดผ่านมาพร้อมกับเสียงต้นไม้เอนลู่ลมทำให้ได้ยินคำถามนั่นไม่ชัดเจน
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะเดี๋ยวพวกยูยะจังจะรอ” ยันกายอันอ่อนล้า
ของตนเองให้ลุกขึ้น หากแต่เรี่ยวแรงในตอนนี้มันได้หายไปหมดเพราะโรคร้าย
“นี่ เจ้าไม่เป็นไรนะ” ประคองร่างบางไว้ทัน
“อืม...”...พอเถอะเคียว เลิกทำเหมือนจะให้ความสำคัญกับข้าเสียที ข้าเหนื่อยเหลือเกินที่จะมัวเสียเวลาคิดไปเอง ว่าเจ้านั้น...
“อ๊ะ...ทำอะไรน่ะเคียว?”
“ก็จะอุ้มไปที่กระท่อมไงเจ้าบ้า”
...ในบางครั้งข้าเองก็อยากจะให้เจ้าเป็นซาโทริซะเหลือเกิน เจ้าจะได้รู้บ้างว่าข้านั้นคิดเช่นไร
“กลับมาแล้วเหรอเคียว...อ๊ะ มุรามาสะซัง เคียวมุรามาสะซังเป็นอะไรไปเหรอ”
“เงียบเหอะ ยัยหน้าย่น เตรียมอาหารเย็นไว้แล้วรึยัง” วางร่างบางลงกับระเบียงชานบ้าน
“อื้ม...เรียบร้อยแล้วละ”
“ไปยกมาสิ พูดมากอยู่ได้”
“รู้แล้วน่า”
“เคียว...ข้าไม่กินละนะ ขอตัวไปพักก่อนล่ะ”
“เดี๋ยวสิ อย่างเจ้าน่ะ จะไม่กินได้ไง อยากตายรึไงฮะ?”
ฝ่ามือแกร่งบีบรัดข้อมือเล็กนั้นไว้จนเป็นรอย ใบหน้าคมจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่วางสายตา
...เคียว เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่ เพียงแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้นที่วิชาซาโทริของข้าใช้ไม่ได้ผล
“อาหารมาแล้ว...เคียว! ทำอะไรมุรามาสะซังน่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้ายัยผู้หญิง ถ้าไม่อยากตายก็ออกไปซะ”
“ไม่! นายจะทำอะไรมุรามาสะซังน่ะ มุรามาสะซังไม่สบายอยู่นะ!” ...ทำไมถึงทำกับมุรามาสะซังแบบนี้นะเคียว เสียแรงที่หลงคิดว่าจะเป็นห่วงอาจารย์ซะอีก
“ข้าไม่เป็นไรหรอกยูยะซัง ขอข้าอยู่กับเคียวซักพักเถอะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าน่ะเป็นอาจารย์ของเคียวนะ เคียวน่ะทำอะไรข้าไม่ได้อยู่แล้ว” พูดพร้อมกับยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายวางใจ ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนหลังจากนี้
“อื้อ...งั้นข้าจะล่วงหน้าไปกับบงนะคะ”
“เดินทางดีดีนะ”
หญิงสาววิ่งออกไปพร้อมกับชายร่างใหญ่
“มากับข้านี่หน่อยสิเคียว” เดินนำมาที่ลานหลังบ้าน
...ถึงเวลาแล้วแล้วสินะ ที่จะต้องบอกทุกอย่างกับเจ้า...
“มีอะไรก็ว่ามา”
“เจ้าก็รู้ใช่มั๊ยเคียว...ว่าร่างกายข้าที่ใช้เวทปลุกชีพขึ้นมานั้นคงรูปอยู่ได้ไม่นาน เพียงแต่เวทนั่นได้ยืดเวลาตายของข้าออกไปเท่านั้น”
“อืม...ข้ารู้”
“เพราะฉะนั้นข้ามีบางอย่างอยากจะถามเจ้า...” ร่างบางก้มหลบใบของตนเอง ความรู้สึกทั้งหมดที่ประดังประเดเข้ามา
ร่างสูงส่งสายตาเป็นเชิงถาม
“เจ้าคิดยังไงกับข้ากันแน่ แค่อาจารย์งั้นรึ?” น้ำเสียงประท้วงถาม พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียน ดวงตาคู่สวยจ้องไปที่ในตาสีแดงดังโลหิตเพื่อค้นหาคำตอบ
“งี่เง่า เป็นถึงซาโทริแท้ๆ ทำไมถึงได้ถามคำถามที่งี่เง่าแบบนี้ออกมานะ” สบถพลางหยิบกล้องยาขึ้นมาสูบ
“อยากรู้ก่อนตายรึไงตาแก่?”
“ขอร้องล่ะเคียว ข้านั้นจะได้ตายตาหลับซักที”
เคียวโยนก้องยานั้นทิ้งไป ก่อนจะประกบริมฝีปากอย่างอ่อนโยน
“ข้ารักเจ้า รักมากว่าทุกสิ่งในโลกนี้มุรามาสะ”
“ดีใจจริงๆ เคียว ข้าไม่เสียใจเลยที่ได้พบกับเจ้า” พลันนั้นร่างของมุรามาสะก็ได้สูญสลายไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังติดตรึง
...คอยดูจากโลกโน้นให้ดีนะมุรามาสะ วิถีชีวิตของข้าที่จะต่อสู้อยู่เพื่อนเจ้า...
---------The end ----------
ฝากเม้นด้วยนะคะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น